พระราชาซาโลมอนชื้อนี้หลายๆคนคงจะรู้จักเขา ด้วยความที่ว่าพระองค์เป็นถึงกษัตริย์แห่งอิสราเอล พระองค์ยังได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่รวยที่สุดในโลกเท่านั้นยังไม่พอ พระองค์ยังเป็นคนที่ได้ชื้อว่าคนที่มีสติปัญญาที่สุดในโลกด้วย!
12ดูเถิด เราจะกระทำตามคำของเจ้าดูเถิด เราให้จิตใจอันประกอบด้วยปัญญาและความเข้าใจเพื่อว่าจะไม่มีใคร ที่เป็นอยู่ก่อนเจ้าเหมือนเจ้า และจะไม่มีใครที่ขึ้นมาภายหลังเจ้าเหมือนเจ้า13เราจะให้สิ่งที่เจ้าไม่ได้ขอแก่เจ้าด้วยทั้งความมั่งคั่งและเกียรติยศ เพื่อว่าตลอดวันเวลาทั้งสิ้นของเจ้าจะไม่มีกษัตริย์องค์อื่นเปรียบเทียบกับเจ้าได้ 1พกษ3:12-13 Th1971
นี้คือสิ่งที่พระคัมภีร์พูดถึงพระองค์ มีจิตใจอันประกอบด้วยความเข้าใจเพื่อว่าจะไม่มีใครที่เป็นอยู่ก่อนเจ้าเหมือนเจ้าและจะไม่มีใครที่มาภายหลังเจ้าเหมือนเจ้า ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆคือพระองค์ฉลาดที่สุดในโลก ฉลาดที่สุดตลอดกาล และก็มีความมั่งคั่งและเกียรติยศระดับที่จะไม่มีกษัตริย์องค์ใดมาเปรียบเทียบได้ !! คุณลองคิดดูซิว่าพระองค์รวยระดับไหน?ขนาดที่ว่า ไม่มีกษัตริย์องค์ไหนเหมือนพระองค์ไม่มีกษัตริย์องค์ไหนมาเปรียบเทียบได้!!
ผู้เชื่อหลายคนที่อ่านมาถึงตอนนี้คงจะเริ่มอิจฉาและเริ่มจินตนการอยากเป็นซาโลมอนกับเขาด้วยแต่ผมมีข่าวดีว่าในวันนี้ ผู้เชื่อทุกคนมีสิทธิที่จะฉลาดและรวยกว่าซาโลมอนแล้ว!!แต่ทำยังไงละ ก็โดยการที่คุณตอนรับพระเยซูไง !! คุณจำได้ไหมว่าครั้งหนึ่งพระเยซูพูดว่า “นางกษัตริย์ฝ่ายทิศใต้จะลุกขึ้นในวันพิพากษาพร้อมกับคนยุคนี้และจะเป็นตัวอย่างให้คนยุคนี้ได้รับโทษด้วยว่าพระนางนั้นได้มาจากที่สุดปลายแผ่นดินโลกเพื่อจะฟังสติปัญญาของซาโลมอน และซึ่งใหญ่กว่าซาโลมอนก็มีอยู่ที่นี่”(มัทธิว 12:42 TH1971) นั่นหมายความว่าในวันนี้เราอยู่ในพระเยซู และพระวิญญาณของพระองค์ก็อยู่ในเรา ดังนั้นเราจึงมีสิทธิที่จะฉลาดมีสติปัญญาและมั่งคั่งมากกว่าพระราชาซาโลมอนซะอีก!!
กลับมาเขาเรื่องกันต่อเพราะนั้นไม่ใช้สิ่งที่เราจะพูดถึงในวันนี้วันนี้เราจะพูดถึงเคล็ดลับที่ทำให้พระราชาซโลมอนมีวันนี้ พี่น้องคงจะทราบใช่ไหมครับว่าก่อนที่พระเจ้าจะให้สิ่งต่างๆกับซาโลมอนดังที่เขียนไว้ข้างต้นใน1พกษ3.12-13 พระองค์ได้ขอกับพระเจ้าก่อน ใน1พกษ 3:7-9ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์ถึงแม้ว่าข้าพระองค์เป็นแต่เด็ก บัดนี้พระองค์ทรงกระทำให้ผู้รับใช้ของพระองค์เป็นกษัตริย์แทนดาวิดเสด็จพ่อของข้าพระองค์ข้าพระองค์ไม่ทราบว่าจะเข้านอกออกในอย่างไรถูก 8และผู้รับใช้ของพระองค์ก็อยู่ท่ามกลางประชากรของพระองค์ ผู้ซึ่งพระองค์ทรงเลือกไว้ เป็นชนชาติใหญ่ซึ่งจะนับหรือคำนวณประชาชนก็ไม่ได้ 9เพราะฉะนั้นขอพระองค์ทรงประทานความคิดความเข้าใจแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ เพื่อจะวินิจฉัยประชากรของพระองค์เพื่อข้าพระองค์จะประจักษ์ในความผิดแผกระหว่างดีและชั่ว เพราะว่าผู้ใดเล่าจะสามารถวินิจฉัยประชากรใหญ่ของพระองค์นี้ได้” คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมพระองค์จึงขอสติปัญญาจากพระเจ้าทำไมพระองค์จึงอธิฐานได้ถูกใจพระเจ้าแบบนั้น ? หลายคนคงบอกว่าก็พระองค์มีสติปัญญาไง พระองค์ฉลาดนินาพระองค์จึงรู้ว่าพนะองค์ควรจะขอกับพระเจ้าอย่างไร อืมผมว่าบางที่ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะบางที่พระราชาซาโลมอนอาจจะไม่ได้มีสติปัญญาอย่างที่เราๆเข้าใจกันก็ได้
ในเริ่มแรกพระองค์ไม่ได้มีสติปัญญาระดับนั้นเพราะพระคัมภีร์บันทึกว่า3ซาโลมอนทรงรักพระเจ้า ทรงดำเนินตามกฎเกณฑ์ของดาวิดราชบิดาของพระองค์เว้นแต่พระองค์ทรงถวายสัตวบูชาและเผาเครื่องหอม ณ ปูชนียสถานสูง4และพระราชาเสด็จไปที่เมือง กิเบโอนเพื่อถวายเครื่องสัตวบูชาที่นั่นเพราะที่นั่นเป็นมหาปูชนียสถานสูง ซาโลมอนทรงถวายเครื่องเผาบูชาพันตัวบนแท่นบูชานั้น พระราชาซาโลมอนเสด็จไปถวายสัตวบูชาที่กิเบโอนทั้งที่หีบพันธสัญญาของพระเจ้าไม่ได้อยู่ที่นั้น แต่อยู่ที่กรุงเยรูซาเร็มต่างหาก ถ้าคุณยังจำได้ว่าพระราชาเดวิดพ่อของพระองค์เป็นผู้นำหีบพันธสัญญาเข้ามาในเยรูซาเล็มแล้วใน2ซมอ6:16
นั่นหมายความว่าพระราชาซาโลมอนไปผิดที่ดังนั้นเราจึงพอจะเดาได้ว่า ก่อนที่พระองค์จะอธิฐานต่อพระเจ้า ซึ่งต้องถือว่าเป็นหนึ่งในคำอธิฐานที่ทรงพลังมากในพระคัมภีร์พระองค์ไม่ได้มีสติปัญญามากอย่างที่เราคิด แต่หลังจากที่เขาอธิฐานกับพระเจ้าต่างหาก เขาจึงมีสติปัญญาเพิ่มขึ้นและหลังจากนั้นพระองค์จึงไปถวายสัตวบูชาถูกที่ซะทีใน1พกษ3:1515และซาโลมอนก็ตื่นบรรทม และ ดูเถิด เป็นพระสุบิน แล้วพระองค์ก็เสด็จมาที่กรุงเยรูซาเล็มและประทับยืนอยู่หน้าหีบพันธสัญญาของพระเจ้า และถวายเครื่องเผาบูชาและเครื่องศานติบูชาและพระราชทานเลี้ยงแก่บรรดาข้าราชการของพระองค์
แต่ว่าอะไรละที่เป็นเหตุผลที่ทำให้ซาโลมอนอธิฐานแบบนั้นอธิฐานขอสติปัญญา เขาจะอยากมีสติปัญญาด้วยตัวเองหรือเปล่า เราไม่สามารถทราบได้แต่ที่สามารถพูดได้คือว่า พ่อของเขาพระราชาเดวิดเองนั่นละที่เป็นคนสอนเขาให้ขอแบบนั้นเราลองมาดูกันใน 1พศด22:11-12 11นี่แหละลูกของข้าเอ๋ย ขอพระยาห์เวห์สถิตอยู่กับเจ้า และขอให้เจ้ามีความสำเร็จสร้างพระนิเวศของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า ตามพระดำรัสเกี่ยวกับเจ้า12ขอเพียงพระยาห์เวห์ประทานให้เจ้ามีความเฉลียวฉลาดและความเข้าใจและทรงให้เจ้าปกครองอิสราเอลเพื่อให้เจ้ารักษาธรรมบัญญัติของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า คุณคงจะเห็นแล้วช่ไหมครับว่าคำอธิฐานของซาโลมอนกับสิ่งที่พ่อของเขาพูดมันช่างคล้ายกันซะเหลือเกินดังนั้นผมจึงคิดว่าพ่อของซาโลมอน หรือที่เราเรียกเขาว่าบุรุษผู้ที่รู้ใจพระเจ้านั้นเป็นผู้ที่สอนและแนะนำซาโลมอน ผมคิดว่าเวลาที่เขาอยู่ด้วยกันตามประสาพ่อลูก เขาคงสอนกันมากมายหลายอย่างและนี้เองที่เป็นเหตผลที่ว่าทำไมซาโลมอนจึงพูดว่า “8ลูกเอ๋ยจงฟังคำสั่งสอนของพ่อเจ้าและอย่าทิ้งคำสอนของแม่เจ้า 9เพราะสองสิ่งนั้นเป็นมงคลงามที่ศีรษะเจ้าเป็นสร้อยรอบคอเจ้า” สภษ1:8-9 นี้ละครับคือเคล็ดลับความฉลาดแบบหาตัวจับยากของซาโลมอนที่ผมอยากจะพูดถึงในวันนี้
ก่อนจากกันในวันนี้ผมมีบางอย่างที่อยากจะเป็นพยานด้วย คือเรื่องของผมกับแม่ของผม ทุกวันนี้ผมเองเป็นคนที่มาคริสตจักรเช้าและตั้งใจฟังคำเทศนา และผมก็พบว่าชีวิตของผมค่อยๆเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆผมเป็นคนที่มาคริสตจักรเช้าได้นั่นเป็นเพราะว่า แม่ของผม ในสมัยก่อนนั้นเมื่อตอนที่ผมยังเป็นวัยรุ่น ผมต้องเป็นคนที่รับหน้าที่ในการมาคริสตจักรซึ่งคุณแม่ของผมก็จะจริงจังมากในการมาคริสตจักรแต่เช้าเพื่อที่ว่าท่านจะมาอธิฐานและมีเวลาเตรียมตัวที่จะนมัสการพระเจ้าอย่างเต็มที่ และฟังคำเทศนาโดยไม่รู้ตัวผมก็ได้รับมรดกนี้จากคุณแม่ เดี๋ยวนี้ผมเลยกลายเป็นคนที่มาคริสตจักเช้าไปด้วย และทุกวันนี้ผมก็ขอบคุณพระเจ้ามากสำหรับแม่ที่ดีของผมแบบนี้
ผมจึงอยากหนุนใจคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านว่าท่านมีส่วนที่สำคัญมากในการที่จะวางแบบอย่างให้กับลูกหลานของท่านที่จะสอนเขาให้เดินอยู่ในทางของพระเจ้า ท่านมีสิทธิที่จะสอนเขา และให้ลูกๆของท่านได้รับพระพรเหมือนอย่างที่ซาโลมอนได้รับพระพรจากพ่อของเขาเดวิด
และคุณน้องๆหนูๆที่เป็นลูก(พูดซะตัวเองดูแก่เลย555)คุณทุกคนก็มีสิทธิที่จะได้รับพระพรเหมือนอย่างที่ซาโลมอนได้รับเหมือนกัน เพียงแต่เงื่อนไขคือ ลูกเอ๋ยจงฟังคำสั่งสอนของพ่อเจ้าและอย่าทิ้งคำสอนของแม่เจ้า 9เพราะสองสิ่งนั้นเป็นมงคลงามที่ศีรษะเจ้าเป็นสร้อยรอบคอเจ้า เอเมน!!!
สุดท้ายที่สุดขออุทิศบทความนี้แด่คุณแม่ของผมที่ได้จากไปแล้วแม่คือผู้หญิงที่เจ๋งที่สุดในโลกของผมเลย