January 18, 2013

เคล็ดลับของผู้ชายที่ได้ชื่อว่าฉลาดที่สุดในโลก!!


พระราชาซาโลมอนชื้อนี้หลายๆคนคงจะรู้จักเขา ด้วยความที่ว่าพระองค์เป็นถึงกษัตริย์แห่งอิสราเอล พระองค์ยังได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่รวยที่สุดในโลกเท่านั้นยังไม่พอ  พระองค์ยังเป็นคนที่ได้ชื้อว่าคนที่มีสติปัญญาที่สุดในโลกด้วย!

12ดูเถิด เรา​จะ​กระทำ​ตาม​คำ​ของ​เจ้าดูเถิด เรา​ให้​จิตใจ​อัน​ประกอบ​ด้วย​ปัญญา​และ​ความ​เข้าใจเพื่อ​ว่า​จะ​ไม่​มี​ใคร ที่​เป็น​อยู่​ก่อน​เจ้า​เหมือน​เจ้า และ​จะ​ไม่มี​ใคร​ที่​ขึ้น​มา​ภายหลัง​เจ้า​เหมือน​เจ้า13เรา​จะ​ให้​สิ่ง​ที่​เจ้า​ไม่​ได้​ขอ​แก่​เจ้า​ด้วยทั้ง​ความ​มั่งคั่ง​และ​เกียรติยศ เพื่อ​ว่า​ตลอด​วัน​เวลา​ทั้งสิ้น​ของ​เจ้าจะ​ไม่มี​กษัตริย์​องค์​อื่น​เปรียบเทียบ​กับ​เจ้า​ได้  1พกษ3:12-13 Th1971

นี้คือสิ่งที่พระคัมภีร์พูดถึงพระองค์ มีจิตใจอันประกอบด้วยความเข้าใจเพื่อว่าจะไม่มีใครที่เป็นอยู่ก่อนเจ้าเหมือนเจ้าและจะไม่มีใครที่มาภายหลังเจ้าเหมือนเจ้า ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆคือพระองค์ฉลาดที่สุดในโลก ฉลาดที่สุดตลอดกาล    และก็มีความมั่งคั่งและเกียรติยศระดับที่จะไม่มีกษัตริย์องค์ใดมาเปรียบเทียบได้ !! คุณลองคิดดูซิว่าพระองค์รวยระดับไหน?ขนาดที่ว่า ไม่มีกษัตริย์องค์ไหนเหมือนพระองค์ไม่มีกษัตริย์องค์ไหนมาเปรียบเทียบได้!!                                                                                   

ผู้เชื่อหลายคนที่อ่านมาถึงตอนนี้คงจะเริ่มอิจฉาและเริ่มจินตนการอยากเป็นซาโลมอนกับเขาด้วยแต่ผมมีข่าวดีว่าในวันนี้ ผู้เชื่อทุกคนมีสิทธิที่จะฉลาดและรวยกว่าซาโลมอนแล้ว!!แต่ทำยังไงละ ก็โดยการที่คุณตอนรับพระเยซูไง !! คุณจำได้ไหมว่าครั้งหนึ่งพระเยซูพูดว่า นาง​กษัตริย์​ฝ่าย​ทิศ​ใต้​จะ​ลุก​ขึ้น​ใน​วัน​พิพากษา​พร้อม​กับ​คน​ยุคนี้และ​จะ​เป็น​ตัวอย่าง​ให้​คน​ยุคนี้​ได้​รับ​โทษด้วยว่า​พระนาง​นั้น​ได้​มา​จาก​ที่​สุดปลาย​แผ่นดิน​โลกเพื่อ​จะ​ฟัง​สติปัญญา​ของ​ซาโลมอน และ​ซึ่ง​ใหญ่กว่า​ซาโลมอน​ก็​มีอยู่​ที่นี่”(มัทธิว 12:42 TH1971) นั่นหมายความว่าในวันนี้เราอยู่ในพระเยซู และพระวิญญาณของพระองค์ก็อยู่ในเรา ดังนั้นเราจึงมีสิทธิที่จะฉลาดมีสติปัญญาและมั่งคั่งมากกว่าพระราชาซาโลมอนซะอีก!!

กลับมาเขาเรื่องกันต่อเพราะนั้นไม่ใช้สิ่งที่เราจะพูดถึงในวันนี้วันนี้เราจะพูดถึงเคล็ดลับที่ทำให้พระราชาซโลมอนมีวันนี้  พี่น้องคงจะทราบใช่ไหมครับว่าก่อนที่พระเจ้าจะให้สิ่งต่างๆกับซาโลมอนดังที่เขียนไว้ข้างต้นใน1พกษ3.12-13 พระองค์ได้ขอกับพระเจ้าก่อน ใน1พกษ 3:7-9ข้าแต่​พระเยโฮวาห์​พระเจ้า​ของ​ข้า​พระองค์ถึง​แม้ว่า​ข้า​พระองค์​เป็น​แต่​เด็ก บัดนี้​พระองค์​ทรง​กระทำ​ให้​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​เป็น​กษัตริย์​แทน​ดาวิด​เสด็จพ่อ​ของ​ข้า​พระองค์ข้า​พระองค์​ไม่​ทราบ​ว่า​จะ​เข้า​นอก​ออก​ใน​อย่างไร​ถูก 8และ​ผู้รับใช้​ของ​พระองค์​ก็​อยู่​ท่ามกลาง​ประชากรของ​พระองค์ ผู้​ซึ่ง​พระองค์​ทรง​เลือก​ไว้ เป็น​ชนชาติ​ใหญ่ซึ่ง​จะ​นับ​หรือ​คำนวณ​ประชาชน​ก็​ไม่​ได้ 9เพราะ​ฉะนั้น​ขอ​พระองค์​ทรง​ประทาน​ความ​คิด​ความเข้าใจ​แก่​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์ เพื่อ​จะ​วินิจฉัย​ประชากร​ของ​พระองค์เพื่อ​ข้า​พระองค์​จะ​ประจักษ์​ใน​ความ​ผิดแผก​ระหว่าง​ดี​และ​ชั่ว เพราะว่า​ผู้ใด​เล่า​จะ​สามารถ​วินิจฉัย​ประชากร​ใหญ่​ของพระองค์​นี้​ได้คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมพระองค์จึงขอสติปัญญาจากพระเจ้าทำไมพระองค์จึงอธิฐานได้ถูกใจพระเจ้าแบบนั้น ? หลายคนคงบอกว่าก็พระองค์มีสติปัญญาไง พระองค์ฉลาดนินาพระองค์จึงรู้ว่าพนะองค์ควรจะขอกับพระเจ้าอย่างไร อืมผมว่าบางที่ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะบางที่พระราชาซาโลมอนอาจจะไม่ได้มีสติปัญญาอย่างที่เราๆเข้าใจกันก็ได้

ในเริ่มแรกพระองค์ไม่ได้มีสติปัญญาระดับนั้นเพราะพระคัมภีร์บันทึกว่า3ซาโลมอน​ทรง​รัก​พระเจ้า ทรง​ดำเนิน​ตาม​กฎเกณฑ์​ของ​ดาวิด​ราช​บิดา​ของ​พระองค์เว้น​แต่​พระองค์​ทรง​ถวาย​สัตวบูชา​และ​เผา​เครื่อง​หอม ณ ปูชนีย​สถาน​สูง4และ​พระราชา​เสด็จ​ไป​ที่​เมือง กิเบโอน​เพื่อ​ถวาย​เครื่อง​สัตวบูชา​ที่นั่นเพราะ​ที่นั่น​เป็น​มหา​ปูชนีย​สถาน​สูง ซาโลมอน​ทรง​ถวาย​เครื่อง​เผา​บูชา​พัน​ตัว​บน​แท่น​บูชา​นั้น พระราชาซาโลมอนเสด็จไปถวายสัตวบูชาที่กิเบโอนทั้งที่หีบพันธสัญญาของพระเจ้าไม่ได้อยู่ที่นั้น แต่อยู่ที่กรุงเยรูซาเร็มต่างหาก ถ้าคุณยังจำได้ว่าพระราชาเดวิดพ่อของพระองค์เป็นผู้นำหีบพันธสัญญาเข้ามาในเยรูซาเล็มแล้วใน2ซมอ6:16 

นั่นหมายความว่าพระราชาซาโลมอนไปผิดที่ดังนั้นเราจึงพอจะเดาได้ว่า ก่อนที่พระองค์จะอธิฐานต่อพระเจ้า ซึ่งต้องถือว่าเป็นหนึ่งในคำอธิฐานที่ทรงพลังมากในพระคัมภีร์พระองค์ไม่ได้มีสติปัญญามากอย่างที่เราคิด แต่หลังจากที่เขาอธิฐานกับพระเจ้าต่างหาก เขาจึงมีสติปัญญาเพิ่มขึ้นและหลังจากนั้นพระองค์จึงไปถวายสัตวบูชาถูกที่ซะทีใน1พกษ3:1515และ​ซาโลมอน​ก็​ตื่น​บรรทม และ ดูเถิด เป็น​พระสุบิน แล้ว​พระองค์​ก็​เสด็จ​มา​ที่​กรุง​เยรูซาเล็มและ​ประทับ​ยืน​อยู่​หน้า​หีบ​พันธสัญญา​ของ​พระเจ้า และ​ถวาย​เครื่อง​เผาบูชา​และ​เครื่อง​ศานติบูชาและ​พระราชทาน​เลี้ยง​แก่​บรรดา​ข้าราชการ​ของ​พระองค์

แต่ว่าอะไรละที่เป็นเหตุผลที่ทำให้ซาโลมอนอธิฐานแบบนั้นอธิฐานขอสติปัญญา เขาจะอยากมีสติปัญญาด้วยตัวเองหรือเปล่า เราไม่สามารถทราบได้แต่ที่สามารถพูดได้คือว่า พ่อของเขาพระราชาเดวิดเองนั่นละที่เป็นคนสอนเขาให้ขอแบบนั้นเราลองมาดูกันใน 1พศด22:11-12 11นี่​แหละลูก​ของ​ข้า​เอ๋ย ขอ​พระยาห์เวห์​สถิต​อยู่​กับ​เจ้า และ​ขอ​ให้​เจ้า​มี​ความสำเร็จสร้าง​พระนิเวศ​ของ​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​เจ้า ตาม​พระดำรัส​เกี่ยว​กับ​เจ้า12ขอ​เพียง​พระยาห์เวห์​ประทาน​ให้​เจ้า​มี​ความ​เฉลียวฉลาดและ​ความ​เข้าใจ​และ​ทรง​ให้​เจ้า​ปกครอง​อิสราเอลเพื่อ​ให้​เจ้า​รักษา​ธรรมบัญญัติ​ของ​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​ของ​เจ้า คุณคงจะเห็นแล้วช่ไหมครับว่าคำอธิฐานของซาโลมอนกับสิ่งที่พ่อของเขาพูดมันช่างคล้ายกันซะเหลือเกินดังนั้นผมจึงคิดว่าพ่อของซาโลมอน หรือที่เราเรียกเขาว่าบุรุษผู้ที่รู้ใจพระเจ้านั้นเป็นผู้ที่สอนและแนะนำซาโลมอน ผมคิดว่าเวลาที่เขาอยู่ด้วยกันตามประสาพ่อลูก เขาคงสอนกันมากมายหลายอย่างและนี้เองที่เป็นเหตผลที่ว่าทำไมซาโลมอนจึงพูดว่า 8ลูก​เอ๋ยจง​ฟัง​คำสั่งสอน​ของ​พ่อ​เจ้าและ​อย่า​ทิ้ง​คำสอน​ของ​แม่​เจ้า 9เพราะ​สอง​สิ่ง​นั้น​เป็น​มงคล​งาม​ที่​ศีรษะ​เจ้าเป็น​สร้อย​รอบ​คอ​เจ้าสภษ1:8-9  นี้ละครับคือเคล็ดลับความฉลาดแบบหาตัวจับยากของซาโลมอนที่ผมอยากจะพูดถึงในวันนี้

ก่อนจากกันในวันนี้ผมมีบางอย่างที่อยากจะเป็นพยานด้วย คือเรื่องของผมกับแม่ของผม  ทุกวันนี้ผมเองเป็นคนที่มาคริสตจักรเช้าและตั้งใจฟังคำเทศนา และผมก็พบว่าชีวิตของผมค่อยๆเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆผมเป็นคนที่มาคริสตจักรเช้าได้นั่นเป็นเพราะว่า แม่ของผม ในสมัยก่อนนั้นเมื่อตอนที่ผมยังเป็นวัยรุ่น ผมต้องเป็นคนที่รับหน้าที่ในการมาคริสตจักรซึ่งคุณแม่ของผมก็จะจริงจังมากในการมาคริสตจักรแต่เช้าเพื่อที่ว่าท่านจะมาอธิฐานและมีเวลาเตรียมตัวที่จะนมัสการพระเจ้าอย่างเต็มที่ และฟังคำเทศนาโดยไม่รู้ตัวผมก็ได้รับมรดกนี้จากคุณแม่ เดี๋ยวนี้ผมเลยกลายเป็นคนที่มาคริสตจักเช้าไปด้วย  และทุกวันนี้ผมก็ขอบคุณพระเจ้ามากสำหรับแม่ที่ดีของผมแบบนี้

ผมจึงอยากหนุนใจคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านว่าท่านมีส่วนที่สำคัญมากในการที่จะวางแบบอย่างให้กับลูกหลานของท่านที่จะสอนเขาให้เดินอยู่ในทางของพระเจ้า ท่านมีสิทธิที่จะสอนเขา และให้ลูกๆของท่านได้รับพระพรเหมือนอย่างที่ซาโลมอนได้รับพระพรจากพ่อของเขาเดวิด

และคุณน้องๆหนูๆที่เป็นลูก(พูดซะตัวเองดูแก่เลย555)คุณทุกคนก็มีสิทธิที่จะได้รับพระพรเหมือนอย่างที่ซาโลมอนได้รับเหมือนกัน  เพียงแต่เงื่อนไขคือ ลูกเอ๋ยจงฟังคำสั่งสอนของพ่อเจ้าและอย่าทิ้งคำสอนของแม่เจ้า 9เพราะสองสิ่งนั้นเป็นมงคลงามที่ศีรษะเจ้าเป็นสร้อยรอบคอเจ้า เอเมน!!!

สุดท้ายที่สุดขออุทิศบทความนี้แด่คุณแม่ของผมที่ได้จากไปแล้วแม่คือผู้หญิงที่เจ๋งที่สุดในโลกของผมเลย

No comments:

Post a Comment