สถานที่ 1: ปิลาส ตัดสินประหารชีวิตพระเยซูเจ้า
แล้วปีลาตก็มอบพระองค์ให้เขาไปตรึงที่กางเขน (ยน.19:16 )
The One Thing
"But one thing is needful: and Mary hath chosen that good part, which shall not be taken away from her."
March 21, 2018
July 2, 2016
ความเชื่อไม่พอ?
ความเชื่อไม่พอ?
คุณเคยเผชิญปัญหาแล้วรู้สึกว่าความเชื่อไม่พอหรือเปล่า? คุณเคยต้องการให้พระเจ้าช่วยเหลือแต่ยังขาดความเชื่อหรือเปล่า? ผมเองก็เคยเป็นแบบนั้น และยังเป็นอยู่ และในอนาคตก็คาดว่าน่าจะมีอาการแบบนั้นอีก!! แต่ขอบคุณพระเจ้าที่พระคัมภีร์บันทึกเรื่องของ"คุณพ่อที่ต้องการให้พระเยซูช่วยลูกของเขา" และเรื่องนี้ได้ให้เคล็ด(ไม่)ลับแก่เรา
เรื่องของคุณพ่อท่านนี้ที่ต้องการให้พระเยซูช่วยเหลือลูกของเขาถูกบันทึกในพระคัมภีร์ 3ครั้ง คือใน มัทธิว 17:14-21; มาระโก9:14-29; ลูกา9:37-43
คุณเคยเผชิญปัญหาแล้วรู้สึกว่าความเชื่อไม่พอหรือเปล่า? คุณเคยต้องการให้พระเจ้าช่วยเหลือแต่ยังขาดความเชื่อหรือเปล่า? ผมเองก็เคยเป็นแบบนั้น และยังเป็นอยู่ และในอนาคตก็คาดว่าน่าจะมีอาการแบบนั้นอีก!! แต่ขอบคุณพระเจ้าที่พระคัมภีร์บันทึกเรื่องของ"คุณพ่อที่ต้องการให้พระเยซูช่วยลูกของเขา" และเรื่องนี้ได้ให้เคล็ด(ไม่)ลับแก่เรา
เรื่องของคุณพ่อท่านนี้ที่ต้องการให้พระเยซูช่วยเหลือลูกของเขาถูกบันทึกในพระคัมภีร์ 3ครั้ง คือใน มัทธิว 17:14-21; มาระโก9:14-29; ลูกา9:37-43
May 31, 2016
ใครเป็นคนสอนวิธีอธิษฐานให้กษัตริย์ซาโลมอน?
คุณเคยตั้งคำถามไหมว่าทำไมในหนังสือสุภาษิต ซาโลมอนจึงมักที่จะสอนเรื่องการเชื่อฟังพ่อแม่ หรือให้ฟังคำสอนของพ่อแม่บ่อยมาก?
เช่น “บุตรชายของเราเอ๋ย จงฟังคำเตือนของพ่อเจ้า และอย่าทิ้งคำสั่งสอนของแม่เจ้า”
สุภาษิต 1:8 TH1971
เรารู้ดีว่า ซาโลมอนกลายเป็นคนที่ฉลาดและมีสติปัญญามากที่สุดในโลกไปทันทีหลังจากในค่ำคืนที่กิเบโอน หลังจากทีพระเจ้าได้มาพบกับเขาทางความฝันแล้วเขาได้อธิษฐาน "คำอธิษฐานที่อาจะเรียกว่าเป็น1ในคำอธิษฐานที่ดีที่สุดในพระคัมภีร์" การขอสติปัญญาจากพระเจ้า
คุณเคยสงสัยอหรือเปล่าว่าทำไมคืนนั้นซาโลมอนจึงอธิษฐานขอ"สติปัญญาจากพระเจ้า เพื่อวินิจฉัยประชาชน" ทำไมเขาไม่ขอความมั่งคั่ง หรือชื่อเสียง?
เช่น “บุตรชายของเราเอ๋ย จงฟังคำเตือนของพ่อเจ้า และอย่าทิ้งคำสั่งสอนของแม่เจ้า”
สุภาษิต 1:8 TH1971
เรารู้ดีว่า ซาโลมอนกลายเป็นคนที่ฉลาดและมีสติปัญญามากที่สุดในโลกไปทันทีหลังจากในค่ำคืนที่กิเบโอน หลังจากทีพระเจ้าได้มาพบกับเขาทางความฝันแล้วเขาได้อธิษฐาน "คำอธิษฐานที่อาจะเรียกว่าเป็น1ในคำอธิษฐานที่ดีที่สุดในพระคัมภีร์" การขอสติปัญญาจากพระเจ้า
คุณเคยสงสัยอหรือเปล่าว่าทำไมคืนนั้นซาโลมอนจึงอธิษฐานขอ"สติปัญญาจากพระเจ้า เพื่อวินิจฉัยประชาชน" ทำไมเขาไม่ขอความมั่งคั่ง หรือชื่อเสียง?
February 1, 2016
เตรียมความพร้อมสู่ "ถูกที่ถูกเวลา"
เตรียมความพร้อมสู่ "ถูกที่ถูกเวลา"
ในชีวิตของเราทุกคนนั้นอยากที่จะเข้าไปอยู่ในช่วงเวลาที่ "ถูกที่ถูกเวลา" อยากจะเข้าไปอยู่ในจุดที่สำคัญมากที่สุดในชีวิต และแน่นอนว่าเราคงไม่อยากจะทำผิดพลาด หรือพลาดโอกาสในช่วงเวลานั้น
เราทุกคนอยากจะเป็นเหมือนกับเดวิดที่ได้พบกับยักษ์โกไลแอท และแน่นอนว่าเราย่อมปรารถนาที่จะเอาชนะยักษ์ด้วยเช่นกัน พูดง่ายๆคือเราอยากได้รับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตและพิชิตมันให้ได้ แต่เราลืมถามตัวเองว่าแล้วถ้าเราได้เจอกับยักษ์ตัวนั้น(โอกาสที่ใหญ่มากที่พระเจ้าเตรียมไว้ให้เรา) เราจะสามารถพิชิตได้หรือไม่? เราจะกลัวกับโอกาสนั้นหรือเปล่า? และเราพร้อมจะรับโอกาสนั้นหรือยัง?
December 7, 2015
พระเจ้าผู้ไม่เคยหมดหวังในตัวคุณ
พระเจ้าผู้ไม่เคยหมดหวังในตัวคุณ
“ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า แต่พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงเมตตากรุณาและทรงพระคุณ ทรงพระพิโรธช้า เปี่ยมด้วยความรักมั่นคงและความซื่อสัตย์”
สดุดี 86:15
สดุดี 86:15
เมื่อคนรอบข้างหมดหวังในตัวคุณ หรือแม้กระทั่งบางทีคุณเองก็อาจจะหมดหวังในตัวคุณเองด้วย แต่ผมอยากให้คุณรู้ความจริงบางอย่างนะครับว่า พระเจ้าจะไม่มีวันหมดหวังในตัวคุณ!
June 10, 2015
พระเยซูกษัตริย์แะเจ้านายเหนือพายุ(ที่คุณกำลังเผชิญ)
พระเยซูตรัสกับพวกเขาทันทีว่า “ทำใจดีดีเถิด นี่เราเอง อย่ากลัวเลย” (มัทธิว 14:27 THSV11)
คุณกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตหรือเปล่า คุณอาจจะกำลังรู้สึกว่าพายุลูกแล้วลูกเล่ากำลังพุ่งมาทำร้ายคุณอย่างไม่ให้หยุดพัก และคุณไม่สามารถที่จะผ่านพายุนี้ไปได้
ใจเย็นๆนะครับ พระเยซูทรงรู้ว่าคุณกำลังเผชิญกับอะไรและพระองค์อยู่กับคุณตลอดเวลาและแม้กระทั่งในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดของคุณ ครั้งหนึ่งเหล่าสาวกก็เผชิญกับพายุที่ทะเลสาบกาลิลี พระเยซูเข้าไปช่วยพวกเขา พระองค์เดินบนน้ำ พระองค์ทรงฝ่าพายุเพื่อจะเข้าไปช่วยเหล่าสาวกของพระองค์ พระองค์คือกษัตริย์และเจ้านายเหนือพายุ!
June 5, 2015
จงละความกังวลเพราะพระองค์ทรงห่วงใยท่าน
เพราะฉะนั้น พวกท่านจงถ่อมตัวลงภายใต้พระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระเจ้า เพื่อว่าพระองค์จะทรงยกพวกท่านขึ้นเมื่อถึงเวลาอันควร จงละความกังวลทุกอย่างของพวกท่านไว้กับพระองค์ เพราะว่าพระองค์ทรงห่วงใยท่านทั้งหลาย (1 เปโตร 5:6-7 THSV11)
พระคัมภีร์บันทึกว่า "ถึงผมของพวกท่านก็ทรงนับไว้แล้วทุกเส้น อย่ากลัวเลย ท่านก็มีค่ามากกว่านกกระจาบหลายตัว (ลูกา 12:7 THSV11)"
พระคัมภีร์บันทึกว่า "ถึงผมของพวกท่านก็ทรงนับไว้แล้วทุกเส้น อย่ากลัวเลย ท่านก็มีค่ามากกว่านกกระจาบหลายตัว (ลูกา 12:7 THSV11)"
May 18, 2015
ขอคิดจาก Masada,Israel (Nov2014)
วันนี้ทริปของเราเริ่มต้นด้วยการตื่นตอน02.00น เพื่อเตรียมตัวไป Masada sunrise
ทริปของวันนี้คือการไปดูพระอาทิตยขึ้นที่อุธยาน Masada ซึ่งเราเดินทางออกจากที่พักในกรุงเยรูซาเล็มไปทาง ดัานตะวันตกของปนะเทศอิสราเอล. โดยเราเริ่มต้นด้วยการเดินทางออกจาก Abraham hostel เวลาตี3 ไปถึงที่อุทยานแห่งชาติ Masada ในเวลาตี4กว่าๆซึ่งไกด์ก็ให้เวลาเราเดินไปถึงที่ยอดเขารวมจนถึงลงมาที่ข้างล่างเพื่อจะขึ้นรถในเวลา8.30. รวมๆก็ประมาณ4ชั่วโมงกว่าๆ
บรรยากาศโดยทั่วไปนั้นมีลักษณะเป็นพื้นที่แห้งแล้ง เต็มไปด้วยภูเขาหิน และทราย บางครั้งก็รู้สึกเหมือนกับว่าได้ไปGrand canyon. เป้าหมายในการเดินทางครั้งนี้คือการขึ้นไปที่ยอดเขาเพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดเขา พร้อมกันนั้นก็ศึกษาประวัติศาสตรของป้อมMasada ป้อมปราการแห่งสุดท้ายของคนยิวที่ต่อสู้กับคนโรมัน
แต่เมื่อมาถึงทางเดินซึ่งมีชื่อเรียกว่า Sneak Path เราก็อุทานออกมาแม่เจ้า!!! แบบว่าสุดยอดมาก. ยิ่งใหญ่มาก มากซะจนคิดในใจว่าจะขึ้นไปบนยอดเขาไหวไหมเนี้ย. มันโคตรสูงเลยนะเนี้ย. แต่ทว่าไม่มีทางถอยกลับซะแล้วมาถึงที่นี้ก็ต้องเดินให้ถึงให้ได้. (แบบว่าอารมณ์ยังคึกคักเพราะเพิ่งมาถึงอยากลองของ555) แต่เมื่อมาถึงได้สักพักและเดินมาได้สักระยะ อารมณ์เริ่มเปลี่ยน เราชักอยากจะลงมาเดี๋ยวนั้นกลับละวันนี้ไม่เอาละวันนี้ พอแค่นี้ดีกว่า(ชักเริ่มกลายเป็นท้อแท้ซะละ555)
ในการเดินทางครั้งนี้เรามีเสื้อกันหนาว. เป้ซึ่งในเป้นั้นมีน้ำหนึ่งขวด. อาหารสำหรับกินระหว่างทาง อาหารสำหรับกินตอนกลางวันที่ทะเลตาย และไอแพทสำหรับการถ่ายรูป อันที่จริงมันก็ไม่หนักเท่าไหร่ แต่เมื่อเดินมาสักพักรู้สึกว่าโคตรหนักเลยอยากจะทิ้งไปให้หมดบวกกับเมื่อมองดูยอดเขาแล้วบอกเลยว่าอีกไกลมาก. อันที่จริงเหมื่อนจะไม่เห็นยอดด้วย เดินมา1ชม.ละยังไม่ถึงยอดเขาเลย ยิ่งพอเวลาเหนื่อยแล้วพยายามจะมองไปยอดเขาเพื่อให้มีกำลังใจ ยิ่งกลายเป็นว่าท้อมากกว่าเดิมอีก แต่จะถอยตอนนี้ก็เสียฟอรม เพราะคุณป้าอีกคนที่มาจากอังกฤษเดินไปนู้นละ ไอ้เรายังวัยรุ่นอยู่เลยนะ(คิดไปเอง555) เลยเดินไปแบบถอยไม่ได้
หลังจากเดินแบบมองทาง(มองที่เท้าตัวเอง)ค่อยๆเดินแบบก้าวต่อก้าวจดจ่ออยู่ที่ก้าวต่อไปที่จะเดินไม่ใช่จุดหมายปลายทาง รู้ว่ายังค่อยๆเดินต่อไปได้ ซึ่งตอนนั้นเองที่เราเริ่มมาคิดถึงชีวิตของตัวเอง เปรียบเทียบกับทัศนะคติหรือความคิดบางอย่างของตัวเอง และนำมาเปรียบกับสิ่งที่พระคัมภีร์สอนก็เลยเหมือนกับว่าเรากำลังเข้าใจอะไรบางอย่าง(เสียที555) บ่อยครั้งเรามักอยากรู้ตอนจบของชีวิตของเรา เราอยากจะรู้ล่วงหน้าหลายๆก้าวว่าพระเจ้าจะนำเราอย่างไร บางครั้งเราก็รีบร้อนอยากรู้การทรงนำจากพระเจ้ามากเกินไป ซึ่งมันก็ไม่ผิดอะไรที่เราจะอยากรู้ เพียงแต่หากเรารู้ว่าแผนการของพระเจ้าที่มีเพื่อเรานั้นเจ๋งและยิ่งใหญ่แค่ไหน บางทีเราอาจจะไม่กล้าไปก็เป็นได้
บางครั้งสายตาของเราเองก็ทำพิษกะตัวเราเองโดยที่เราไม่รู้ตัว เพราะสายตาของเราชอบที่จะเห็นทุกอย่างจนหมดแล้วจึงค่อยทำอะไรบางอย่าง แต่พอเราเห็นว่าภูเขาลูกที่เรากำลังปีนอยู่นั้นสูงแค่ไหนเราก็เริ่มถอดใจจนบางครั้งเราไม่อยากเดินอีกต่อไป ผมตั้งสมมุติฐานส่วนตัวขึ้นมาว่า พระเจ้ามีแผนการที่ใหญ่มากสำหรับเราแต่ละคน(มากๆ) แต่พระองค์เลือกที่จะนำเราก้าวต่อก้าวมากกว่าเพราะพระองค์รู้ว่าถ้าเรารู้แผนการทั้งหมดเราอาจไม่กล้าเดินก็ได้ ถ้าอย่างนั้นนำเราแบบก้าวต่อก้าวดีกว่าจนถึงวันนึงเราไปถึงยอดเขา เราจะพบว่าแผนการของพระเจ้าสุดยอดมาก
ผมนึกไปถึงอาจารย์เปโตร จากเป็นชาวประมงอยู่ดีๆถ้าเขารู้ว่าตอนจบของชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไรเขาคงนั่งตกปลาสบายๆต่อดีกว่า แต่อย่างที่เราทุกคนรู้ว่าบั้นปลายของอาจารย์เปโตรยิ่งใหญแค่ไหน อ.เปาโลถึงขนาดยกย่องว่าเป็นเสาหลักของคริสตจักรเลยทีเดียว แต่กว่าจะถึงตอนนั้นเขาเคยทำผิดพลาดหลายครั้ง ผมเชื่อว่าทุกคนรวมถึงเปโตรเองก็คงคิดไม่ถึงว่าเขาจะไปได้ขนาดไหน แต่พระเยซูรู้ พระองค์ถึงเรียกเปโตรมาเป็นสาวกของพระองค์
กลับมาที่การผจญภัยบนภูเขามาซาด้ากันต่อ. พอเดินมาสักพักผมก็ชักจะอยากถ่ายรูป. ทั้งอยากถ่ายรูปให้ตัวเอง ถ่ายรูปให้คนอื่น ไหนก็อยากจะเอาแว่นกันแดดมาใส่ เดียวก็อยากจะเอาเสื้อออก ในที่สุดเราเหมือนเสียโฟกัสในการเดินเขา ซึ่งชีวิตคนเราก็เป็นอย่างนั้น เมื่อเราทำอะไรไปถึงจุดหนึ่งเรารู้สึกเหมือนกับว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเราแล้ว เราน่าจะหาอะไรมาทำเพิ่มเติมอีกสักอย่าง. เราเริ่มจะวอกแวก เริ่มที่จะอยากทำนู้นทำนี้สุดท้ายก็หลงทางไป เหมือนกับการเดินขึ้นเขา เราเสียพลังงานของเรากับการทำนู้นทำนี้รวมถึงเสียเวลาไปด้วย. สุดท้ายเราก็ต้องมารีบเร่งทำโน้นทำนี้เพราะเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นกำลังจะมาถึงแล้ว ดังนั้นเราจึงต้องวิ่งเพื่อให้ทันเวลาและนั่นคือสิ่งที่ทำให้เราเหนื่อยมากขึ้นกว่าเดิม
การเดินทางครั้งนี้ของผมมีเพื่อนร่วมทางไปอีก4คน ซึ่งหนึ่งในนั้นมีพี่ชายคนโตของผมไปด้วย การเดินทางไปพร้อมกับเพื่อนร่วมทางอีก4คนนั้นมันทำให้เรายังคงมีแรงที่จะเดินไปต่ออีกหน่อย และบางครั้งพี่ชายผมก็จะคอยเอามือมาดันหลังผมไปด้วยในขณะปีนขึ้นเขา. ซึ่งนั้นทำให้การเดินทางของเรายังไปต่อได้. ผมจึงเริ่มจะเข้าใจอะไรบางอย่างว่าพระเจ้าสร้างเรามาเพื่อให้เราช่วยเหลือกันและกัน และในอาณาจักรพระเจ้าไม่มี One Man Show ผมนึกไปถึงโมเสส วันที่เขานำชนชาติอิสราเอลออกจากอียิปต์ เขามีโยชูวาที่คอยสนับสนุนเขาตลอดเวลา และในขณะเดียวกัน โยชูวาเรียนรู้วิธีการนำจากโมเสส ส่วนโมเสสก็ได้รับการหนุนหลังจากโยชูวา นั่นหมายความว่าทั้งสองคนนั้นต่างให้และรับในเวลาเดียวกัน
ในที่สุดก็มาถึงยอดเขา สุดยอด อัศจรรย์ ขอบคุณพระเจ้า มันโคตรสวยเลยอะ เราไม่มีทางรู้ว่าข้างบนภูเขามันสวยแค่ไหนจนเรามาถึงยอดเขา และเราก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่พระเจ้าเตรียมบางสิ่งบางอย่างให้เราในอนาคตนั้นสุดยอดแค่ไหน จนเรามาถึงที่นั้น บางครั้งสิ่งที่พระเจ้าเตรียมให้เรานั้นมันดีเกินกว่าที่เราจะเข้าใจหรือยากที่พระเจ้าจะอธิบายให้เราฟังตอนนั้น จนกระทั่ง!! เราไปถึงจุดๆนั้นที่พระเจ้าเตรียมไว้ให้เรา และตอนนั้นนั่นเองที่เราจะพูดออกมาว่าสุดยอดวะ. โคตรเจ๋งเลย และคำพูดสุดท้ายที่เราจะพูดได้คือ "ขอบคุณพระเจ้า"
August 29, 2013
มีหัวใจที่ใหญ่เหมือนกับพระเจ้าที่แสนน่ารักของคุณ
From "Be Big-Hearted Like God" By Ps.Joseph Prince
24บางคนยิ่งจำหน่ายยิ่งมั่งคั่ง บางคนยิ่งยึดสิ่งที่ควรจำหน่ายไว้ยิ่งขัดสนก็มี
สุภาษิต 11:24
เมื่อพระเจ้าทรงสร้างโลก
พระองค์ทรงสร้างทุกสิ่งมากเกินกว่าคำว่า “พอดี”สำหรับความต้องการของเรา คุณรู้ไหมครับว่าพระเจ้าเป็นพระเจ้าที่ฟุ่มเฟือยในสิ่งต่างๆเพื่อคุณ
พระองค์จะไม่มีทางที่จะตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่ง พร้อมกันอุทานว่า “โอ้ ไม่นะ ฉันลืมที่จะใส่น้ำมันให้เพียงพอแก่ความต้องการของมนุษย์” ผมจะพูดแบบนี้นะครับว่า
พระองค์มีทรัพยากรที่จะอวยพรเรามากเกินกว่าความต้องการของทั้งโลกรวมกันซะอีก!!
August 22, 2013
ไม่มีอะไรที่ยากสำหรับพระเจ้า
From "Nothing Is Too Hard For God" By
Ps.Joseph Prince
เยเรมีย์ 31.17
‘ข้าแต่พระเจ้า คือพระองค์เอง ผู้ได้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
ด้วยฤทธานุภาพใหญ่ยิ่งของพระองค์และ ด้วยพระหัตถ์ซึ่งเหยียดออกของพระองค์
สำหรับพระองค์ไม่มีสิ่งใดที่ยากเกิน
สิ่งแรกเวลาที่เราเผชิญปัญหา
เรามักจะคิดว่าปัญหานั้นใญ่หรือเล็ก แม้กระทั่งเวลาที่เราอธิษฐานเผื่อผู้ป่วย
เรามักจะทำเหมือนกับว่า ถ้าความเจ็บป่วยนั้นคือการปวดหัว เรามักจะคิดว่าสบายมาก
พระเจ้าทำได้ทุกอย่าง แต่เมื่อเราเผชิญกับโรคมะเร็ง เรากลับคิดว่า
บางทีผมคงต้องให้ศิษยาภิบาลมาอธิษฐานเผื่อคุณ เขามีการเจิมมากกว่าผม
เราคิดไปเองว่าการปวดหัวนั้นเป็นเรื่องเล็ก แต่โรคมะเร็งนั้นเป็นเรื่องใหญ่
Subscribe to:
Posts (Atom)