January 17, 2011

ความเชื่อที่แท้จริง คือการรับเอาจากพระองค์

แปลจาก Daily Devotional-New Creation Church  "Believing Is Receiving"  http://www.facebook.com/note.php?note_id=146619685391866
มาระโก 5.28-29
28 เพราะเธอคิดว่า "ถ้าเราได้แตะต้องแต่ฉลองพระองค์ เราก็จะหายโรค"
29 ในทันใดนั้นเลือดที่ตกก็หยุดแห้งไป และผู้หญิงนั้นรู้สึกตัวว่าโรคหายแล้ว

คุณคงจะเคยได้ยินคนพูดว่า ฉันจะเชื่อก็ต่อเมื่อฉันได้เห็น โดยปกติแล้วนั่นคือสิ่งที่โลกคิด แต่ทางของพระเจ้าไม่เหมือนกับทางของโลก โลกพูดว่า ถ้าหากฉันรู้สึก ถ้าหากฉันเห็น ฉันจึงจะเชื่อ แต่พระเจ้าพูดว่า ถ้าเจ้าเชื่อก่อนที่จะเห็นหรือก่อนที่เจ้าจะมีความรู้สึก เจ้าจะได้เห็นการอัศจรรย์
เชื่อก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนที่เราจะได้เห็นมันเกินขึ้น สิ่งนี้เราเรียกว่าความเชื่อ ความเชื่อนั้นเหมือนประจุไฟฟ้า และพระเยซูคือดินระเบิด




ในเรื่องของหญิงคนนี้ที่ตกเลือด มีหลายคนที่แตะต้องตัวพระเยซู (มาระโก5.31) แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับคนเหล่านั้น ทำไมละ? เพราะคนเหล่านั้นไม่ได้แตะต้ององค์พระผู้เป็นเจ้าของเราด้วยความเชื่อ แต่ในขณะเดียวกัน หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ที่ถูกทรมานด้วยโรคร้ายมา12ปี เขาเข้ามาหาองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา และแตะต้องพระองค์ด้วยความเชื่อ องค์พระผู้เป้นเจ้าของเราทรงรู้สึกว่าฤทธิ์ซ่านออกจากพระองค์แล้ว (มาระโก5.30) และทันใดนั้นฤทธิ์เดชแห่งการรักษาที่ผู้หญิงคนต้องการก็ออกมาด้วย และนั่นได้ทำให้หญิงคนนั้นหายโรค เอเมน!!!!

หญิงคนนั้นคงเคยได้ยินถึงเรื่องของพระเยซูมาบ้าง เขาคงได้ยินว่าพระเยซูดีแค่ไหน ฤทธิ์เดชมากแค่ไหน พระองค์มีพระทัยที่เมตตา และเต็มไปด้วยความรักแค่ไหน และนั้นเองที่ทำให้หญิงคนนั้นเกิดความเชื่อ (แม้ว่าอาการตกเลือดของหญิงคนนั้นยังปรากฏอยู่ก็ตาม) และนั่นเองหญิงคนนั้นจึงพูดว่า ถ้าเราได้เพียงแตะต้องฉลองพระองค์ เราก็จะหายโลก หญิงคนนั้นได้รับการรักษาโรคก่อนที่เขาจะเชื่อหรือเปล่า แน่นอน ไม่ ตรงกันข้ามเขาเชื่อก่อนว่าพระเยซูดีแค่ไหน ฤทธิ์เดชมากแค่ไหน และเขาจึงทำอย่างที่เขาเชื่อ และเขาก็ได้รับการรักษา เขาได้รับการอัศจรรย์อย่างที่เขาต้องการ

ในทางเดียวกัน พระอยากให้เราเชื่อและเห็นในความดีของพระองค์ก่อน พระองค์อยากให้เรารู้ว่าพระองค์เต็มใจที่จะช่วยเหลือเรา พระองค์อยากให้เรารู้ว่า การที่พระองค์จะอวยพรเรานั้น คือความปรารถนาของพระองค์ พระองค์อยากสิ่งดีทุกอย่างแก่เรา (โรมัน 8.32)

พระองค์อยากให้เราประกาศมันออกมาโดยความเชื่อว่าสิ่งดีทุกอย่างของพระองค์เป็นของเรา และให้เราคาดหวังที่จะเห็นสิ่งเหล่านั้น ไม่สำคัญว่าปัญหานั้นเราจะเผชิญมานานแค่ไหน ไม่สำคัญว่ามันจะเลวร้ายแค่ไหน แค่คาดหวังว่าจะได้รับการช่วยเหลือจากพระองค์ คาดหวังว่าพระองค์จะรักษา คาดหวังว่าพระองค์จะนำสิ่งที่เราเคยสูญเสียไปแล้วกลับคืนมาและดีกว่าที่เคยเป็น และคุณจะได้รับอย่างที่คุณเชื่อ!!!

No comments:

Post a Comment